10 วิธี รักษาแผลเป็นนูน การรักษารอยแผลเป็นแบบไม่ต้องฉีดที่ดีที่สุด
10 วิธี รักษาแผลเป็นนูน การรักษารอยแผลเป็นแบบไม่ต้องฉีดที่ดีที่สุด รอยแผลเป็นคืออุปสรรคของความสวยงาม สร้างความไม่มั่นใจให้กับคุณสาวๆโดยเฉพาะรอยแผลเป็นที่ปูดนูนโชว์เด่นหราอยู่บนผิวขาวๆ มองไปมองมาคล้ายมีปลิงมาเกาะอยู่
ยิ่งรอยแผลเป็นนั้นอยู่ในตำแหน่งที่คนอื่นสามารถมองเห็นได้ชัดเจน อย่างเช่น หัวไหล่ ,หลัง ทางเดียวที่จะช่วยได้ก็ต้องพยายามเลือกหาเสื้อผ้ามาใส่เพื่อปกปิด ยิ่งชุดเซ็กซี่เปิดหลัง เปิดไหล่ ลืมไปได้เลย!!!
ส่วนการรักษาแผลเป็นนูนบางวิธีอาจต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่สูงมาก แต่ถ้าหากมีขนาดรอยแผลไม่ใหญ่เท่าไหร่อาจปล่อยให้แผลเป็นค่อยๆจางลงได้เองตามธรรมชาติ โดยแผลเป็นสามารถจางลงได้เองระดับหนึ่งเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 6 เดือน – 1 ปี
หรืออาจใช้วิธีรักษาด้วยการใช้วัตถุดิบที่หาได้ง่ายตามธรรมชาติ ที่จะเข้าไปช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าพร้อมกับสร้างเซลล์ผิวใหม่บริเวณที่เกิดแผลเป็นอีกทั้งยังทำให้ผิวเปล่งปลั่งด้วย ฉะนั้นเราจึงรวบรวม 10 วิธีลบรอยแผลเป็นนูน ด้วยวิธีธรรมชาติมาฝากสาวๆกันคะ
1. ว่านหางจระเข้
เป็นอีกหนึ่งสุดยอดสมุนไพรพื้นบ้านที่ได้ชื่อว่ามีสรรพคุณในการช่วยลบรอยแผลเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะแผลเป็นที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน ว่านหางจระเข้สามารถช่วยฟื้นฟูบาดแผล ทำให้ผิวชุ่มชื้นอีกทั้งช่วยลดอาการปวดแสบปวดร้อนและอาการคัน เพราะในว่านหางจระเข้มีฤทธิ์เย็น
เพียงแค่นำวุ้นจากในว่านหางจระเข้มาทาลงไปที่บริเวณรอยแผลเป็น ปล่อยทิ้งเอาไว้ให้แห้งเพื่อให้ตัวยาซึมซาบเข้าสู่ผิว ทำซ้ำได้วันละหลายๆครั้งจะสัมผัสได้ว่าแผลเป็นนูนเริ่มนิ่มขึ้นและมีขนาดเล็กและจางลงในที่สุด
2. น้ำมะนาว
ในน้ำมะนาวอุดมไปด้วยวิตามินซีจึงมีคุณสมบัติช่วยทำให้แผลนูนอ่อนนุ่มลง พร้อมกับมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สามารถลบรอยแผลเป็นต่างๆได้ดี อีกทั้งในน้ำมะนาวยังช่วยฟื้นฟูและรักษาบาดแผลได้อีกด้วย ส่วนขั้นตอนเพียงคั้นน้ำมะนาวไปทาบริเวณแผลเป็น ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที
จากนั้นก็ล้างออกด้วยน้ำอุ่น เช็ดให้แห้ง ตามด้วยการทามอยส์เจอไรเซอร์บำรุงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น ควรทำเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ให้ได้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 1 เดือนจะส่งผลให้แผลเป็นนูนค่อยๆดีขึ้นอย่างแน่นอน
3. แอปเปิ้ลไซเดอร์
หรือน้ำส้มสายชูหมักสามารถช่วยในการลดเลือนรอยแผลเป็นนูนได้อย่างดีเยี่ยม โดยใช้กระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าทำให้เผยผิวใหม่ที่นุ่มชุมชื้นขึ้น เพียงแค่นำสำลีจุ่มลงไปในน้ำส้มสายชูหรือหากกลัวว่าจะเข้มข้นเกินไปก็อาจผสมน้ำเปล่าลงไปก่อนเล็กน้อย จากนั้นก็นำไปทาที่บริเวณรอยแผลเป็น
ทิ้งไว้อย่างน้อยประมาณ 30 นาทีแล้วล้างออก สามารถทาซ้ำได้ประมาณวันละ 3-4 ครั้งต่อเนื่องประมาณ 2 สัปดาห์จะรู้สึกได้ว่าแผลเป็นนูนชุ่มชื้นขึ้น
4. กระเทียม
มีสรรพคุณต้านการอักเสบของแผลแถมช่วยลดขนาดรอยแผลเป็นนูนได้อย่างดี เพียงนำกะเทียมมาบดให้ละเอียดแล้วพอกลงไปบนบริเวณรอยแผลเป็น
ทิ้งไว้อย่างน้อยประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออกอีกครั้งด้วยน้ำอุ่น เช็ดให้แห้งพร้อมกับทามอยส์เจอไรเซอร์เพื่อบำรุงซ้ำอีกครั้ง หมั่นทำเป็นประจำวันละ 1 ครั้ง ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 1 เดือนจะทำให้รอยแผลเป็นเล็กลว
5. หัวหอมใหญ่
หลายคนนิยมนำเอาหัวหอมใหญ่มาช่วยลดรอยแผลเป็นให้จางลง เพราะในหอมใหญ่มีสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติในการสร้างเนื้อเยื่อ เพียงหั่นหัวหอมเป็นแผ่นๆจากนั้นนำไปใส่ในผ้าขาวบางแล้วบดจนละเอียดจนได้น้ำของหอมหัวใหญ่
หลังจากนั้นใช้สำลีชุบน้ำหัวหอมแต้มไปที่แผลเป็น ทิ้งไว้ให้แห้ง แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นหมั่นทำบ่อยๆหรือจนกว่าจะรู้สึกว่าแผลเป็นนูนดีขึ้น
6. น้ำผึ้ง
เปรียบได้กับมอยส์เจอไรเซอร์จากธรรมชาติที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิว และสามารถกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตพร้อมกับป้องกันการผลิตคอลลาเจนที่มากเกินไป ขั้นตอนก็นำน้ำผึ้งดิบมาทาบริเวณแผลเป็นแล้วนวดเป็นวงกลมประมาณ 10 นาที ทิ้งไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำบ่อยๆประจำวันละ 2 ครั้ง
7. ผงไม้จันทน์
ผงไม้จันทน์สามารถช่วยรักษารอยแผลเป็น โดยนำผงไม้จันทน์ 1 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำเปล่าคนให้เป็นเนื้อเดียวกัน จากนั้นก็นำไปพอกที่รอยแผลเป็น ทิ้งไว้อย่างนั้น 1 คืนแล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น ทำซ้ำเป็นประจำทุกวัน ต่อเนื่องเป็นเวลา 1-2 เดือน แผลเป็นนูนจะค่อยๆจางลง
8. ใบบัวบก
มีฤทธิ์ในการสมานแผล เร่งการสร้างเนื้อเยื่อ ส่งผลให้แผลแห้งไว จึงช่วยลดรอยแผลเป็นอย่างธรรมชาติ แค่นำใบบัวสด 1 กำมือ ล้างให้สะอาดแล้วนำไปตำให้ละเอียด คั้นเหลือไว้แต่น้ำมาทาบริเวณแผลเป็น ไม่เพียงช่วยให้แผลแห้งสนิท ยังช่วยให้แผลนูนจางลงได้อีกด้วย
9. น้ำมันจากต้นชา
เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากเพราะมันมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมาะกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ เพราะสามารถยับยั้งรอยแตกลายบนท้องและหยุดกระบวนการผลิตเม็ดสีทที่มากเกินไป มักถูกนำมาใช้ในหลายวิธีทั้งสำหรับการรักษาและช่วยหยุดอาการปวดต่างๆ ด้วยการหยดน้ำมันเพียงเล็กน้อยและนวดบนรอยแผลเป็นให้ทั่ว ทำเช่นนี้วันละ 2 ครั้งเป็นอย่างน้อย
10. น้ำมันจากแครอท
เหมาะสำหรับรอยแผลเป็นที่เกิดจากสิวและบาดแผลอื่นๆ เพราะน้ำของแครอทคือน้ำยาฆ่าเชื้อที่ยอดเยี่ยม มีสารต้านอนุมูลอิสระ ด้วยการหยดน้ำมันลงไปและนวดน้ำมันให้ทั่วบริเวณผิวประมาณ 5-10 นาที วันละ 2 ครั้งทุกๆวัน ไม่นานแผลเป็นนูนก็จะค่อยๆยุบตัวลง
เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิธีรักษารอยแผลเป็นนูนแบบธรรมชาติเหล่านี้ ก็สามารถช่วยทำให้รอยแผลเป็นรวมทั้งรอยแดงต่างๆจางลงได้อย่างง่ายได้ ลองนำแต่ละวิธีไปปรับใช้ดู เชื่อว่าสาวๆก็จะได้ผิวสวยกลับคืนมาอย่างแน่นอนคะ