อาหารเสริมคนท้อง คุณแม่มีครรภ์ ทำไมคุณหมอไม่แนะนำให้ทานอาหารเสริม
อาหารเสริมคนท้อง คุณแม่มีครรภ์ ทำไมคุณหมอไม่แนะนำให้ทานอาหารเสริม ปกติแล้วคนท้องนั้นจะมีเมนูที่เป็นอาหารหลักให้กับคนท้องได้รับประทานอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นจำพวกโปรตีน ซึ่งปกติคนที่ไม่ท้องก็ต้องมีการรับประทานโปรตีนอยู่แล้ว แต่เนื่องด้วยคุณแม่นั้นมีการตั้งครรภ์จึงควรที่จะได้รับโปรตีนเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมอีก
อย่างเช่น จำพวก เนื้อสัตว์ทุกชนิด นม ไข่ หรือจำพวกธัญพืช เป็นต้น ซึ่งโปรตีนเป็นอาหารหลักอยู่แล้ว หรือจะเป็นคาร์โบไฮเดรต จำพวกแป้งและน้ำตาล อย่างเช่น ข้าวซ้อมมือ มัน ถั่ว งา เป็น หรือจะเป็น อาหารจำพวกไขมันก็ขาดไม่ได้เช่นกัน
นอกจากนี้ยังมีอาหารจำพวกวิตามินอีกด้วย ซึ่งวิตามินเป็นสารอาหารที่มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก เพราะมีบทบาทต่อกระบวนการย่อยอาหาร และทำให้ร่างกายนำอาหารจำพวกโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกาย
ซึ่งถ้าหากคุณแม่มีครรภ์ขาดอาหารเสริมคนท้องจำพวกวิตามินไปแล้วก็จะทำให้ร่างกายนั้นไม่สามารถที่จะทำงานอย่างเป็นปกติได้ ฉะนั้น ในที่นี้เราขอกล่าวถึงการที่คุณแม่ต้องรับประทานอาหารเสริม ทั้งนี้ ก็เพื่อเด็กในครรภ์และสุขภาพของคุณแม่เอง ดังนี้ อาหารเสริมคนท้อง
1. โฟลิค แอซิด
วิตามินคนท้อง และแร่ธาตุนี้เรียกว่าโฟเลต ซึ่งมีความจำเป็นต่อพัฒนาการของเด็กมากในช่วง 3 เดือนแรก และหากได้รับไม่เพียงพออาจก่อให้เกิดความพิการในสมองและระบบประสาทไขสันหลังของเด็กได้ แต่บางหมอก็บอกว่าวิตามินนี้หากรับประทานมากเกินไปก็อาจจะทำให้มีผลต่อเด็กในครรภ์ได้
ฉะนั้น ทางที่ดีคุณแม่ควรจะรับประทานโฟลิค แอซิดอาหารเสริมคนท้องในปริมาณที่เหมาะสม เพราะถ้าหากรับประทานมากไปอาจจะเกิดอันตรายแก่เด็กได้
2. แคลเซียม
ในปัจจุบันนั้นก็มีอาหารเสริมจำพวกแคลเซียมมากมาย และจากการที่ค้นพบจะพบว่าแคลเซียมนั้นคุณแม่ควรที่จะรับประทานในมื้อเช้าจะดีที่สุด แต่คุณหมอก็มีการย้ำว่าการรับประทานแคลเซียมที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีนั้นควรที่แยกจากการทานวิตามินตัวอื่นๆ
เพราะมิเช่นนั้นแล้วอาจจะส่งผลต่อเด็กในครรภ์ได้ และหากรับประทานมากเกินไปก็อาจจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อเด็ก ซึ่งปริมาณที่เพียงพอในการรับประทานแคลเซียม นั้นก็คือ ประมาณ 600-1,000 มิลลิกรัม
3. เหล็ก
แร่ธาตุชนิดนี้มีความสำคัญในการพัฒนาของเซลล์เม็ดเลือดมาก ซึ่งจำเป็นสำหรับสุขภาพของทารกน้อยซึ่งธาตุเหล็กนั้นคุณหมอมีการสั่งมาว่าควรที่จะทานเมื่อคุณแม่มีครรภ์ตั้งแต่ 15 สัปดาห์ขึ้นไป จึงจะสามารถที่จะรับประทานได้ แต่ถ้าคุณแม่บางคนรับประทานธาตุเหล็กอาหารเสริมคนท้องอยู่แล้ว
จะต้องรับประทานแยกกับโฟลิค อีกด้วย เพราะมิฉะนั้น อาจจะเกิดอาการคลื่นไส้ได้
4. วิตามินอี
วิตามินนี้ช่วยในการพัฒนากล้ามเนื้อและเซลล์เม็ดเลือดของทารก หากขาดวิตามินอีแล้วมีผลทำให้ทารกมาน้ำหนักต่ำได้ แต่ถ้าหากได้รับวิตามินอีมากไปก็อาจจะทำให้เกิดการแท้งลูกได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามหากคุณแม่ที่มีการตั้งครรภ์ต้องการรับประทานวิตามินอีก็ควรที่จะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ก่อนว่าสามารถที่จะรับประทานได้หรือไม่
แต่ถ้าหากคุณแม่มิได้มีการรับประทานจำพวกอาหารเสริม คุณแม่ก็สามารถที่จะทดแทนได้ด้วย น้ำมันพืช ถั่ว หรือธัญพืชต่างๆได้
5. โปรตีน
โปรตีนถือว่าเป็นส่วนสำคัญในการเสริมสร้างเซลล์ร่างกายของทารกน้อย จึงทำให้ความต้องการของโปรตีนนั้นมีมากในช่วงสามเดือนแรกๆก่อนการตั้งครรภ์ แต่คุณแม่ก็สามารถที่จะหาเนื้อสัตว์ จำพวก ปลา ไข่ หรือเนยมาทดแทนจำพวกอาหารเสริม เพราะอาหารเสริมคนท้องที่คุณแม่จะรับประทานได้นั้นจะต้องได้รับอนุญาตจากคุณหมอก่อนเสมอ
6. วิตามินบี 1
วิตามินนี้มีความสำคัญสำหรับการพัฒนาระบบประสาทส่วนกลางของทารกน้อย ถ้าทารกได้รับอาหารเสริมเด็กวิตามินบี 1 ที่ไม่เพียงพอแล้วอาจจะทำให้ทารกนั้นเสี่ยงเป็นโรคเหน็บชาได้ ซึ่งสามารถที่จะเป็นอันตรายต่อหัวใจและปอดของลูกได้ โดยวิตามินบี 1 นั้นก็มีเป็นจำพวกอาหารเสริมขายเช่นเดียวกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับแพทย์ว่าแพทย์จะให้รับประทานหรือไม่อย่างไร เพราะถ้าหากรับประทานมากไปก็อาจจะเกิดอันตรายต่อแพทย์ได้
7. วิตามินบี 6
วิตามินนี้ช่วยในการพัฒนาสมองและระบบประสาทของลูกน้อย ซึ่งวิตามินบี 6 นั้นได้แก่ แตงโม ถั่วเขียวและหน้าอกไก่ เป็นต้น แต่จำพวกอาหารเสริมคนท้องก็มีขายเช่นเดียวกันกับวิตามินบี 1 แต่ทั้งนี้ก็ต้องได้รับการอนุญาตจากแพทย์ก่อนก่อนที่จะรับประทานได้
ฉะนั้น จะเห็นได้ว่า การทานวิตามินหรืออาหารเสริมต่างๆนั้น
ปกติแล้วคุณแม่ก็จะได้รับประทานอาหารครบ 5 หมู่อยู่แล้ว เพียงแต่วิตามินและแร่ธาตุที่กล่าวมานั้นเป็นตัวที่ช่วยเสริมหรือช่วยบำรุงร่างกายของคุณแม่และเด็กในครรภ์ให้มีสุขภาพที่แข็งแรงมากขึ้นนั่นเอง ซึ่งก็มีวิตามินบางชนิดที่คุณหมอไม่แนะนำให้รับประทาน หรือแนะนำให้รับประทาน
แต่ถ้าหากรับประทานมากไปก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายแก่แม่หรือเด็กในครรภ์ได้ ยกตัวอย่างเช่น ธาตุเหล็ก เป็นสารอาหารที่คุณแม่ควรทานเสริมนอกจากการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว ซึ่งธาตุเหล็กนั้นจะช่วยเสริมในเรื่องของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดงที่เป็นตัวนำออกซิเจนไปสู่ทารกในครรภ์ได้
ซึ่งหากคุณแม่ได้รับไม่เพียงพอก็อาจจะทำให้เกิดภาวะโรคโลหิตจางได้ ส่งผลให้คุณแม่ที่มีการตั้งครรภ์เกิดการอ่อนเพลียและเหนื่อยได้ ทั้งนี้การรับประทานธาตุเหล็กของคุณแม่ที่มีการตั้งครรภ์นั้นจะต้องเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์อย่างใกล้ชิด เพราะอาจจะเกิดอันตรายกับเด็กได้ทุกเมื่อถ้ารับประทานไปโดยพลการ