งูสวัสดิ์ ห้ามกินอะไร 10 ของกินต้องห้าม ที่คุณ ต้องรู้
งูสวัสดิ์ ห้ามกินอะไร 10 ของกินต้องห้าม ที่คุณ ต้องรู้ “งูสวัด” เป็นโรคทางผิวหนังชนิดหนึ่งที่มีต้นตอมาจากเชื้อไวรัสชนิดเดียวกับโรคอีสุกอีใส เพียงแต่ว่างูสวัดจะไม่แสดงอาการออกมาทันทีที่ติดเชื้อ แต่จะแอบซ่อนอยู่ในปมประสาทของเรา
ซึ่งเราไม่ทันรู้ตัวมาก่อน เชื้อสามารถฝังตัวเป็นระยะเวลาได้หลายปี โดยเฉพาะผู้ที่เคยเป็นอีสุกอีใสมาแล้ว เมื่อไหร่ที่ภูมิต้านทานต่ำ มันก็จะสำแดงฤทธิ์ในทันที นอกจากนี้งูสวัสดิ์ติดต่อได้ด้วย หากไม่ระวัง
ดังนั้นใครที่เป็นโรคงูสวัด การรักษางูสวัสดิ์จึงต้องรู้จักดูแลตนเองพร้อมเสริมภูมิต้านทานให้กับร่างกาย ด้วยการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารให้ถูกสุขลักษณะ ที่สำคัญต้องรู้ว่างูสวัดห้ามกินอะไรเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจจะเพิ่มมากขึ้น
1. เป็นงูสวัส กินเหล้าได้ไหม ห้ามเลยข้อแรก แอลกอฮอล์
ถึงแม้ไม่ต้องเป็นโรคงูสวัดแต่หลายคนคงทราบกันอยู่แล้วว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อร่างกาย โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคงูสวัด เพราะแอลกอฮอล์จะเข้าไปกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังทำงานผิดปกติ ก่อให้เกิดอาการอักเสบและเร่งเชื้อให้กระจายตัวได้มากขึ้น นอกจากนั้นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ยังไปทำให้ยาที่กินเข้าไปมีประสิทธิภาพลดลงหรือเกิดอาการข้างเคียงอย่างอื่นตามมา
2. งูสวัสดิ์ ห้ามกิน อาหารที่ใช้น้ำตาลเป็นส่วนผสม
สำหรับคำถามว่างูสวัดห้ามกินอะไรอย่างแรกที่นึกถึงคงเป็นอาหารที่ทำมาจากน้ำตาลหรือมีน้ำตาลเป็นส่วนผสม อย่าง ช็อคโกแลต ลูกกวาด ล้วนแล้วส่งผลต่อสุขภาพทั้งนั้น ไม่ว่าจะทำให้น้ำหนักขึ้นหรือเป็นโรคอ้วน รวมทั้งส่งผลต่อผู้ป่วยโรคงูสวัดด้วยน้ำตาลจะเข้าไปกระตุ้นให้อาการอักเสบ ทำให้เชื้อกำเริบได้ง่าย ฉะนั้นหากอยากให้ร่างกายแข็งแรงควรอยู่ให้ห่างน้ำตาลไว้จะดีกว่า
3. โรคงูสวัสดิ์ อาหารที่ไม่ควรกิน อาหารที่มีกลูเตน
ในผู้ป่วยงูสวัดบางรายอาจมีอาการแพ้รวมอยู่ด้วย เช่น แพ้อากาศ แพ้อาหาร หรือแพ้กลูเตน โดยเฉพาะกลูเตนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่พบได้ในธัญพืชประเภทข้าวสาลี จึงมักถูกนำมาเป็นส่วนผสมของขนมต่างๆ หลายชนิด ฉะนั้นผู้ป่วยโรคงูสวัดอาจจะต้องเพิ่มความระมัดระวังก่อนจะรับประทาน หรือถ้าไม่แน่ใจก็ลองสอบถามแพทย์ที่รักษาเสียก่อนว่าสามารถรับประทานได้หรือไม่เพื่อป้องกันไว้ก่อน
4. โรคงูสวัสดิ์ ห้ามกินนม ผลิตภัณฑ์ที่มีนมผสม
ในผู้ป่วยงูสวัดบางรายพบว่าในช่วงที่อาการของโรคกำลังกำเริบ หากหยุดดื่มนมหรือเลิกทานผลิตภัณฑ์ที่มีนมเป็นส่วนประกอบ เช่น ชีส เนย โยเกิร์ต ไอศกรีม แล้วพบว่าแผลจากงูสวัดเริ่มค่อยๆดีขึ้น จึงเกิดความเชื่อได้ว่านมอาจมีส่วนกระตุ้นต่ออาการของโรค
ซึ่งถ้าใครจำเป็นที่จะต้องดื่มนมจริงๆลองหันมาเปลี่ยนเป็นดื่มนมถั่วเหลืองทดแทนไปก่อน จนกว่าพบว่านมไม่เกี่ยวข้องกับโรคงูสวัดแล้วจึงกลับมาดื่มนมตามเดิมก็ไม่เสียหายอะไร
แต่ทว่าใครที่ทานผลิตภัณฑ์จากนมแล้วอาการงูสวัดรุนแรงขึ้นคงต้องงดทานแบบจริงจัง รวมทั้งก่อนที่จะทานอะไรอาจจะต้องตรวจสอบฉลากให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีนมผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์
5. งูสวัสดิ์ ห้ามกินเนื้อสัตว์หรืออาหารแปรรูป
งูสวัดห้ามกินอะไรก็คือห้ามกินเนื้อสัตว์แปรรูปหรือจำพวกอาหารแปรรูปอย่าง แฮม เบคอน ไส้กรอก เป็นต้น หรือถ้าอดใจไม่ไหวก็ควรกินในปริมาณน้อยกำลังพอดี โดยเฉพาะอาหารที่ทำมาจากเนื้อแดง เพราะอุดมไปด้วยไขมันชนิดไม่อิ่มตัวสูงซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นให้อาการงูสวัดอักเสบมากขึ้น
ฉะนั้นควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคด้วยการหันมาทานเนื้อขาว เช่น เนื้อไก่ เนื้อปลาที่มีประโยชน์ของกรดโอเมก้า 3 เสริมภูมิคุ้นกันแทนน่าจะเหมาะสมมากกว่า
6. งูสวัสดิ์ ไม่ควรกินเนื้อไก่ทอด หมูทอด ของทอด
เป็นอาหารประเภทที่ต้องยกมือห้ามอย่างเด็ดขาด เพราะทราบกันดีอยู่แล้วว่าของทอดไม่ดีต่อสุขภาพเอามากๆ โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคงูสวัด เนื่องจากของทอดจะกระตุ้นให้อาการอักเสบของงูสวัดกำเริบขึ้นได้ ที่สำคัญคือเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้นมาอีกหนึ่งโรคเป็นของแถมพ่วงมาด้วยก็ได้
7. งูสวัสดิ์ ห้ามกินอาหารที่มีรสจัด
ตามปกติแล้วการกินอาหารรสจัดมากจนเกินไป อย่าง เปรี้ยวจัด หวานจัด เค็มจัด หรือเผ็ดจัด ล้วนไม่ดีต่อสุขภาพ โดยเฉพาะรสเผ็ดจัดอาจส่งผลต่อโรคงูสวัดได้ แต่ถ้าหากว่าหลีกเลี่ยงการรับประทานรสชาติจัดๆไม่ได้ แนะนำว่าให้ทานเครื่องเทศแทน
เพราะในเครื่องเทศบางชนิดก็มีผลดีต่อโรคงูสวัด ช่วยต้านทานอาการอักเสบได้ เช่น ขมิ้น หรือขิง ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายแข็งแรง
8. งูสวัสดิ์ ไม่ควรกิน กลุ่มผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว
ในกลุ่มผลไม้รสเปรี้ยวที่ถือว่าเป็นสารก่อภูมิแพ้ตามธรรมชาติ อย่าง ส้ม มะนาว เลมอน เกรปฟุต ฯลฯ ซึ่งมีฤทธิ์ใกล้เคียงกับพวกอาหารทะเล อาหารหมักดอง ที่ล้วนแล้วแต่กระตุ้นให้อาการแพ้กำเริบขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยโรคงูสวัด หรืออาการอักเสบของผิวหนังประเภทอื่นๆให้ยิ่งแย่ลงกว่าเดิม
9. อาหารฟาสต์ฟู้ด
หรือที่มักถูกเรียกกันว่าอาหารขยะ เนื่องมาจากอาหารกลุ่มนี้เต็มไปด้วยแป้ง เกลือ น้ำตาล และไขมัน ซึ่งจัดว่าเป็นอาหารแคลลอรี่สูง ในทางกลับกันคุณค่าทางโภชนาการต่ำมาก อีกทั้งรายงานทางการแพทย์ยังพบว่าตัวการที่ทำให้โรคงูสวัดกำเริบขึ้นมาจากร่างกายอ่อนแอ เกิดภาวะไขมัน ความดันโลหิตสูง ข้ออักเสบ ส่งผลให้เชื้อที่ซ่อนในปมประสาทปะทุขึ้นมา
10. งูสวัสดิ์ ห้ามกิน ผลไม้อะไร มะเขือเทศ
ยังไม่มีการยืนยันว่ามะเขือเทศส่งผลต่อโรคงูสวัดจริงหรือไม่ แต่พบว่าในผู้ป่วยบางรายเมื่อทานมะเขือเทศเข้าไปพบว่าอาการแย่ลง จึงเชื่อได้ว่าในมะเขือเทศอาจมีกรดบางตัวที่เข้าไปกระตุ้นให้งูสวัดกำเริบ
ลองสังเกตอาการดูว่าเวลาที่ทานมะเขือเทศเข้าไปแล้วมีตุ่มเกิดขึ้นเห่อกว่าเดิมหรือไม่ ทั้งนี้รวมไปถึงพืชตระกูลมะเขือชนิดอื่นๆ เช่น มะเขือยาว มะเขือเปราะด้วย
ทั้งนี้สรุปได้ว่าผู้ป่วยโรคงูสวัดห้ามกินอะไรบ้าง ซึ่งการลด ละ เลิก รับประทานอาหารทั้ง 10 ชนิดนี้อาจเป็นเพียงตัวช่วยไม่ให้อาการถูกกระตุ้นให้กำเริบขึ้น แต่ทางที่ดีผู้ป่วยโรคงูสวัดต้องดูแลให้ร่างกายแข็งแรง และกินยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดจะช่วยให้คุณหายจากโรคนี้ได้ค่ะ