เคล็ดลับ ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย ได้ผลแบบถาวร

เคล็ดลับ ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย ได้ผลแบบถาวร

ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี เคล็ดลับ ลดน้ำหนักอย่างปลอดภัย ได้ผลแบบถาวรถ้าพูดถึงวิธีลดนํ้าหนักอย่างถูกวิธีนั้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายหรือการควบคุมอาหารนั้นมีอยู่มากมายหลายวิธีที่ทำตามกันมาเรื่อยๆ

โดยที่หลายคนไม่รู้ว่าวิธีไหนถูกหรือวิธีในผิด ซึ่งหลักการที่จะช่วยทำให้คุณได้พบกับรูปร่างใหม่ที่ผอมเพรียวอย่างคนมีสุขภาพดีได้ ก็คือการเข้าใจในเรื่อง ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธี ว่าทำอย่างไร จึงจะประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนักในระยะยาวได้จริงๆ

อย่างทฤษฎีเกี่ยวกับการออกกำลังกาย ที่หลายคนเชื่อจนกลายเป็นข้อเท็จจริงมานานนับร้อยปี คือการออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีขึ้นไป หรือการที่มีเหงื่อออกจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผอมลงได้

ไปจนถึงหลักการลดน้ำหนักด้วยวิธีอดอาหารก็ล้วนเป็นทางเลือกที่ผู้คนเลือกใช้ตามความเชื่อและความรู้ที่ได้รับมา แต่เรื่องราวเหล่านี้ยังมีบางส่วนที่ถูกบิดเบือนไปจากความจริง เพราะเป้าหมายของการออกกำลังกาย คือ การกำจัดไขมันส่วนเกิน

ดังนั้นน้ำหนักที่ลดลงไปจึงไม่ได้เป็นผลสรุปได้ว่าเราจะผอมลงได้และไม่กลับมาอ้วนอีก โดยถ้าสังเกตให้ดีผู้หญิงที่ออกกำลังกายอย่างถูกวิธี กับผู้หญิงที่ออกกำลังกายแบบผิดๆ เมื่อนำมาชั่งน้ำหนักพร้อมกัน พบว่าคนแรกมีน้ำหนักมากกว่า

ส่วนคนที่สองมีน้ำหนักน้อยกว่า แต่เมื่อเทียบสัดส่วนกันแล้วกลับพบว่าคนแรกมีหุ่นที่ผอมเพรียวและกระชับ ส่วนคนที่สองกลับยังดูอวบอ้วน ลักษณะแบบนี้คงจะเป็นหนึ่งในความเชื่อผิด ๆ ที่เราจะพาทุกคนไปเจาะลึกกับความรู้ใหม่ แล้วเปลี่ยนความคิดเดิมๆ สู่การออกกำลังกายอย่างถูกวิธีกันให้มากขึ้น

อย่างแรก ที่คุณควรทำก็คือ เลิกมองตัวเลขบนตาชั่งซะ แม้เครื่องชั่งน้ำหนักจะเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนลดน้ำหนักที่ไม่ค่อยมีความเข้าใจต่อหลักการในการลดน้ำหนักซะเท่าไหร่ หลายคนจึงพยายามที่จะจดน้ำหนักตัวที่เปลี่ยนแปลงไปในทุกเช้าที่ตื่นนอนอย่างเป็นกิจวัตรเพื่อให้ทราบผลว่า น้ำหนักตัวลดลงหรือเพิ่มขึ้นหรือไม่

ในขณะที่บางคนออกกำลังกายอย่างจริงจังบวกกับการควบคุมอาหารอย่างเหมาะสม แต่ก็ยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการลดน้ำหนักที่แท้จริงคืออะไร เมื่อไหร่ที่เห็นน้ำหนักบนตาชั่งเพิ่มขึ้น ก็ยิ่งกังวลใจและเกิดความสงสัยกับการลดน้ำหนักของตัวเอง กลายเป็นการตั้งคำถามว่า ทำไมออกกำลังกายเท่าไรน้ำหนักก็ยังไม่ลดลงซะที แทนที่จะได้กำลังใจ กลับกลายเป็นท้อใจไปซะ

จากนั้น หลายคนอาจจะสงสัยว่า ลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีกับการลดไขมันแตกต่างกันอย่างไร ความหมายนี้อาจจะดูเหมือนเรื่องเดียวกัน แต่ทว่าการลดน้ำหนักนั้นคือการพูดรวมๆ ถึงการลดน้ำหนักของร่างกายโดยรวมทั้งหมดให้เบาลง

โดยรวมไปถึงน้ำหนักจากน้ำในร่างกาย ของเสีย อาหารที่เรารับประทานเข้าไป ไขมัน และกล้ามเนื้อด้วย ซึ่งหากเราใช้วิธีชั่งน้ำหนักเป็นตัวกำหนด จะสังเกตได้ว่าแค่กินน้ำเข้าไปสัก 2-3 แก้ว น้ำหนักตัวก็เพิ่มขึ้นได้อย่างง่ายๆแล้ว

ตัวเลขตัวเลขบนตาชั่งจึงไม่สามารถนำมาใช้เป็นตัววัดในการลดน้ำหนักที่ถูกต้องได้เลย แต่เป็นเพียงแค่ตัวช่วยเสริมเพื่อให้เราทราบถึงน้ำหนักมวลรวมที่เปลี่ยนแปลงไปเท่านั้น

ในขณะที่การลดไขมัน คือ การลดน้ำหนักอย่างถูกต้องมากที่สุด เพราะเป้าหมายในการออกกำลังกายและควบคุมอาหารของเราก็เพื่อกำจัดเอาส่วนของไขมันออกไป แล้วแทนที่มันด้วยกล้ามเนื้อที่มีขนาดเล็กและกระชับมากกว่า แม้จะเทียบในสัดส่วนน้ำหนักที่เท่ากัน แต่ด้วยไขมันเป็นของเหลวมันจึงมีขนาดใหญ่ ส่วนกล้ามเนื้อจะเล็กกว่าเป็นสองเท่าตัว

ดังนั้น หัวใจของการลดนํ้าหนักอันที่จริงๆ แล้วมีแค่ 2 ข้อหลักๆ เลยก็คือ ออกกำลังกายผลาญไขมันให้เป็น และ ควบคุมอาหารให้ได้ จึงจะถือว่าเป็นการลดน้ำหนัก

โดยการออกกำลังกาย ถือว่าเป็นหนึ่งในสองหัวใจสำคัญในการลดน้ำหนัก เพราะวิธีการออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนักนั้น ต้องออกกำลังกายเพื่อให้เผาผลาญพลังงานให้ได้มากกว่าปริมาณอาหารที่รับประทานเข้าไป

เนื่องจากเมื่อร่างกายเผาผลาญพลังงานในส่วนที่เรารับประทานเข้าไปจนหมดแล้ว สุดท้ายก็จะนำไขมันส่วนเกินที่เก็บสะสมเอาไว้มาเปลี่ยนเป็นพลังงานในการออกกำลังกายแทน ซึ่งจะส่งผลให้น้ำหนักลดลงได้อย่างรวดเร็ว สำหรับระยะเวลาในการออกกำลังกายนั้น ควรจะใช้เวลาในการออกกำลังกายให้ได้วันละประมาณ 30-60 นาที

อย่างไรก็ตาม ส่วนใหญ่แล้ววิธีลดน้ำหนักให้ได้ผลจะต้องออกกำลังกายควบคู่ไปกับการควบคุมอาหาร ซึ่งหลักการควบคุมอาหารเพื่อลดความอ้วนอย่างเร่งด่วนก็คือ จะต้องรับประทานอาหารในปริมาณที่น้อยกว่าที่ร่างกายต้องการใช้

เพื่อให้ร่างกายดึงพลังงานจากไขมันส่วนเกินมาใช้แทน วิธีนี้จะสามารถทำให้น้ำหนักลดลงได้อย่างรวดเร็ว โดยมีตัวอย่างเมนู อาหารลดน้ำหนักทำเอง แนะนำง่ายๆ ดังนี้

อาหารเช้า แนะนำให้รับประทาน โยเกิร์ตรสธรรมชาติ, น้ำส้ม, กาแฟ (ไม่ใส่น้ำตาล), ขนมปังปิ้งจนแห้งเปล่าๆไม่ทาอะไร , ไข่ต้ม หรือจะรับประทานผลไม้อะไรก็ได้

อาหารกลางวัน แนะนำให้รับประทาน ปลานึ่ง ปลาย่าง ผักลวกจิ้มน้ำพริก ยำผักไม่ใส่เนื้อสัตว์ หรือส้มตำ และต้องงดของทอดของมันเด็ดขาด

อาหารเย็น แนะนำให้รับประทาน สลัดผักน้ำใส, ผักลวกจิ้มน้ำพริก, ยำผักไม่ใส่เนื้อสัตว์, ส้มตำ หรือผลไม้

แต่อย่างไรก็ตาม ในเรื่องความปลอดภัยสำหรับการลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีนั้น ควรวิเคราะห์รูปร่างและน้ำหนักของตัวเองให้ละเอียด ในระยะเริ่มแรก ลดน้ำหนัก 1 เดือน ไม่ควรลงมากกว่า 3 กิโลกรัม หากลงมากกว่านั้น สิ่งที่หายไปจะเป็นน้ำและกล้ามเนื้อ ส่วนไขมันจะยังคงอยู่

หากไม่รีบลองปรับพฤติกรรมการกินให้มีสติและเลือกกินมากขึ้น พยายามรักษาน้ำหนักให้ลดลงประมาณเดือนละ 1-2 กิโลกรัม ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายรับรองได้เลยว่าภายใน 1 ปี คุณจะมีรูปร่างที่สมส่วน และน้ำหนักสิบกว่ากิโลกรัมที่หายไป ก็ไม่ทำให้ระบบในร่างกายต้องรวนอีกด้วย