8 ท่าออกกำลังกายในที่ทำงานง่ายๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ ได้ผลจริง

ออกกำลังกายในที่ทำงาน ง่ายๆ 8 ท่า ออกกำลังกายที่ทำงาน ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ ได้ผลจริง ชีวิตของพนักงานออฟฟิศที่ต้องตรากตรำทำงานเป็นอย่างหนัก ต้องตื่นนอนแต่เช้าตรู่เพื่อทุ่มเทให้กับการทำงานจนดึกดื่น จนกลายเป็นว่าไม่มีเวลาที่จะดูแลเอาใจใส่สุขภาพกันมากนัก หลายคนต้องทนนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานติดต่อกันหลายชั่วโมง

จึงหนีไม่พ้นที่จะต้องมีอาการปวดเมื่อยตามส่วนต่างๆของร่างกายตามมา และหากมีพฤติกรรมเช่นนี้นานๆเข้าอาจกลายเป็นการเจ็บป่วยชนิดเรื้อรังจนต้องพึ่งหมอพึ่งโรงพยาบาลกันเลยทีเดียว วันนี้เราจึงมีวิธีออกกำลังกายในที่ทำงานมาฝากกัน เป็นวิธีง่ายๆที่สามารถทำได้โดยใช้อุปกรณ์ในที่ทำงานเป็นเครื่องมือ ซึ่งจะมีวิธีอะไรบ้างนั้น มาติดตามกันได้เลย

ท่าออกกำลังกายในที่ทำงาน

1. ท่าดันแขนกับโต๊ะ

เพื่อ : การออกกำลังกายด้วยท่านี้จะช่วยยืดกล้ามเนื้อแขน ทำให้แขนมีกำลังเพิ่มมากขึ้น ใครที่ต้องใช้แขนทำงานหนัก ให้ฝึกทำท่านี้บ่อยๆช่วยลดอาการปวดเมื่อยบริเวณแขนได้ดีทีเดียว

ทำอย่างไร : ให้ยืนถอยห่างจากโต๊ะ 1 ช่วงแขน ยืดตัวให้ตรง ยื่นแขนทั้งสองข้างออกไปข้างหน้า มือจับที่ขอบโต๊ะ ถอยเท้าออกไปอีกหน่อยให้หลังยืดตรง แล้วดันตัวให้กดลงกับขอบโต๊ะ ให้แนบชิดขอบโต๊ะให้มากที่สุด โดยที่ลำตัวจะทำมุมเฉียงกับโต๊ะ 45 องศา ใช้แขนยันลำตัวให้ขึ้นลงซัก 12 ครั้ง เรียกว่าเป็น 1 เซต ทำซ้ำประมาณ 3 – 4 เซต

2. ท่ายกหนังสือ

เพื่อ : ท่ายกหนังสือนี้ เหมาะสำหรับการบริหารกล้ามเนื้อหลังแขนหรือกล้ามเนื้อมัดไตรเซป (Triceps) และหัวไหล่ ใครที่ต้องนั่งทำงานนานๆ จะช่วยคลายความเมื่อยล้าของหัวไหล่ได้

ทำอย่างไร : สำหรับท่านี้ต้องใช้ตัวช่วยเป็นหนังสือขนาดเหมาะมือมีน้ำหนักพอสมควร ให้ยืนตัวตรง สองมือจับหนังสือ ชูขึ้นเหนือศีรษะ แล้วพับแขนไปข้างหลัง ให้หนังสืออยู่ตรงช่วงหลังคอ แล้วยกขึ้นให้สุดแขน ทำเช่นนี้สลับกันไปมาประมาณ 5 เซต เชตละ 10 ครั้ง

3. ท่าเขย่งปลายเท้า

เพื่อ : ท่านี้จะช่วยเพิ่มความกระชับ ตึงเปรี๊ยะให้กับกล้ามเนื้อน่องของเรา ทำให้เรียวขามีความแข็งแกร่ง สามารถเดินขึ้นลงบันได โดยไม่เมื่อยล้าง่ายๆ

ทำอย่างไร : หาเก้าอี้ที่มีพนักพิงหลังมาสักตัวหนึ่ง ให้ด้านที่มีพนักพิงอยู่ด้านหลังเรา ยืนให้เท้าชิดกัน เอามือจับพนักพิงด้านบนของเก้าอี้ให้มั่น แล้วเขย่งปลายเท้าทิ้งน้ำหนักตัวไปที่เก้าอี้ เขย่งปลายเท้าให้สุดค้างไว้ประมาณ 10 วินาที แล้วกลับมายืนตามปกติช้าๆ ทำซ้ำอย่างน้อย 10 ครั้ง

4. ท่านั่งกลางอากาศหันหลังชนกำแพง

เพื่อ : ช่วยให้กล้ามเนื้อต้นขา กล้ามเนื้อหน้าขา น่อง ไปจนถึงกล้ามเนื้อหลัง และกล้ามเนื้อหน้าท้องมีความแข็งแรง

ทำอย่างไร : ให้หาผนังหรือกำแพงโล่งและไม่เกะกะขวางทางใครแล้วยืนตัวตรง หันหลังให้กำแพง กะระยะให้พอดีให้หลังชิดกำแพงเวลานั่ง ค่อยๆย่อเข่าลงให้ตั้งฉากกับพื้นหลังชิดกำแพง ทำท่านั่งเหมือนนั่งเก้าอี้ ค้างไว้ประมาณ 10 วินาที ฝึกบ่อยๆกล้ามเนื้อจะแข็งแรงขึ้น

5. ท่าดันแขนจากทางด้านหลัง

เพื่อ : นี่เป็นท่าออกกำลังในออฟฟิศที่ไม่ทำให้ดูสะดุดตานัก ได้บริหารกล้ามเนื้อช่วงแขน กล้ามเนื้อหัวไหล่ กล้ามเนื้อบางส่วนของหน้าท้องและขาไปด้วยในเวลาเดียวกัน ใครที่ชอบมีพฤติกรรมทำให้ขาใหญ่ ท่านี้เหมาะลดต้นขามาก

ทำอย่างไร : เลือกโต๊ะทำงานที่มีความสูงต่ำกว่าระดับเอวเล็กน้อย เคลียร์โต๊ะให้โล่ง แล้วยืนตัวตรงหันหลังให้ ใช้มือทั้งสองข้างยื่นไปข้างหลังจับที่ของโต๊ะ ก้าวเท้าออกไปข้างหน้า แล้วให้บริเวณด้านหลังชิดกับขอบโต๊ะ ย่อเข่าลง จากนั้นใช้แขนยันตัวขึ้น เหยียดลำตัวแขนขาให้ตรง โดยที่ลำตัวจะเอนทำมุม 45 องศากับขอบโต๊ะ

6. ท่าโยคะแบบแมวยืดตัว

เพื่อ : ท่านี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อแขน ไหล่ ท้อง และขาเท่านั้น แต่ยังช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียด ท่าโยคะลดความอ้วนนี้ทำให้มีสมาธิในการทำงานเพิ่มมากขึ้น ใครที่ต้องใช้ความคิดมากๆ ท่านี้จะช่วยจะให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงสมองได้เป็นอย่างดี ทำให้มีพลังสมองมากขึ้น

ทำอย่างไร : ท่านี้อาจต้องหาอะไรปูพื้นซักหน่อย จากนั้นยืนกางขาออกจากกันเล็กน้อย โน้มตัวลง เอามือทั้งสองวางบนพื้น ห่างกันประมาณหนึ่งช่วงไหล่ ยืดตัวให้สูงจนเป็นรูปสามเหลี่ยม แขนเหยียดตึง ช่วงขาตึง เขย่งปลายเท้า แล้วเหยียดลำตัวให้ตรงโดยดันลำตัวไปข้างหน้า ทำซ้ำใหม่

7. ท่าบิดลำตัวรับโทรศัพท์

เพื่อ : ใครที่ต้องนั่งทำงานอยู่กับที่เป็นเวลานานๆ ไม่ค่อยได้ขยับตัวลุกจากที่นั่งไปไหน ท่านี้จะช่วยให้ได้เปลี่ยนอิริยาบถ ผ่อนคลายความเมื่อยล้าของกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี

ทำอย่างไร : ท่านี้เหมาะสำหรับงานที่ต้องคอยรับสายโทรศัพท์อยู่เสมอ แต่แทนที่จะนั่งรับสายอยู่เฉยๆก็เปลี่ยนมาเป็น Small Talk Bluetooth Headphone แทน เมื่อมีสายเรียกเข้าเมื่อไหร่ ก็จะได้หมุนตัวลุกจากเก้าอี้ไปคุยได้ทันที มีโทรศัพท์มาบ่อยๆ ก็จะได้บิดตัวบ่อยๆไง

8. ท่าดันหัวไหล่

เพื่อ : ใครที่มีปัญหาบุคลิกภาพ ชอบนั่งหลังค่อมเป็นประจำ จะช่วยยืดหลังให้ตรง ช่วยบริหารกล้ามเนื้อแผ่นหลัง และหัวไหล่

ทำอย่างไร : ท่านี้จะช่วยปรับแก้บุคลิกของคนที่ชอบนั่งหลังค่อมจนเป็นนิสัยให้ดีขึ้น โดยยืนตัวตรง ยืดอกให้หัวไหล่ตั้งตรง จากนั้นให้ดันหัวไหล่ไปด้านหลัง โดยปล่อยมือทั้งสองข้างไว้ข้างลำตัว ค้างไว้ประมาณ 10 วินาที

การที่ต้องอยู่ในอิริยาบถเดิมเป็นระยะเวลานานๆนอกจากจะทรมานร่างกายแล้ว ยังทำให้เกิดผลเสียตามมาอีกมากมาย การได้ใช้เวลาในระหว่างวันทำงาน ได้ยืดเส้นยืดสายออกกำลังกายบ้างตามสมควร

การออกกำลังกายที่ทำงาน

นอกจากจะช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากการที่ต้องอยู่ในท่าเดิมเป็นเวลานานแล้ว ยังจะช่วยให้มีประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น เพราะการออกกำลัง จะทำให้เรารู้สึกกระฉับกระเฉง สมองปลอดโปร่ง และยังเป็นการสร้างเสริมสุขภาพดีๆให้กับร่างกาย ห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บอีกด้วย